top of page

การสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัย ชุดเสี่ยงแถนแนนฟ้า จากวรรณกรรมเรื่อง ขูลู นางอั้ว

บทความโดย ภรันยา แสนบุญ
ผลของการสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัยจากวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขูลู นางอั้ว ที่นําความเชื่อของคนในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์เป็นการแสดงในรูปแบบนาฏศิลป์ร่วมสมัย การสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัยจากวรรณกรรม เรื่อง ขลู นางอั้ว เป็นการนําเสนอความเชื่อตอนเสี่ยงทายสายแนนมาใช้ในการเขียนบท ประกอบการแสดงและประดิษฐ์อุปกรณ์การแสดง และนําเครื่องดนตรีอีสาน
บทคัดย่อ

การสร้างสรรค์นาฏกรรมร่วมสมัยนี้เป็นงานวิจัยแบบสร้างสรรค์นาฎศิลป์ร่วมสมัย จากวรรณกรรม เรื่องขูลู นางอั้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์ร่วมสมัย ในด้านความเชื่อ พิธีกรรมการ เสียงสายแนน ให้มีความหลากหลายและแปลกใหม่มานําเสนอรูปแบบนาฏศิลป์ร่วมสมัยจึงได้ทําการศึกษาโครง เรื่องและเนื้อหาจากวรรณกรรมเรื่องขุล นางอั้ว และได้มีการยิบยกเรื่องราวบางตอนมาสร้างสรรค์การแสดง นาฏศิลป์ร่วมสมัย โดยใช้ทฤษฎีทางสุนทรียศาสตร์ ทฤษฎีนาฏยศาสตร์ ทฤษฎีการใช้สื่อในการเล่าเรื่องราว ประกอบการแสดง สร้างสรรค์ในครั้งนี้คือการเก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ โดยการ สัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องประเด็นการนําเรื่องสายแนนมาสร้างสรรค์เป็นการแสดงต่าง ๆ โดยแบ่ง ออกเป็นกลุ่ม ดังนี้ อาจารย์สาขาศิลปะการแสดง อาจารย์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านนาฏยศิลป์และดนตรี, ผู้ออกแบบงานร่วมสมัย องค์ประกอบที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ประกอบด้วย ใช้บทร้องผสมกับผญา และท่าทางการ เคลื่อนไหวการเกี้ยวพาราสีกัน นักแสดงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ประกอบไปด้วยขูลู นางอั้ว กลุ่มที่ 2 ประกอบไปด้วย แม่หม่อนหรือร่างทรง และชาวบ้าน 2 คน การแสดงแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงที่ 1 เป็นการ เปิดตัวนักแสดงกลุ่มแรก ขูลู นางอั้ว เกี้ยวพาราสีกัน ช่วงที่ 2 แม่หม่อนหรือร่างทรงและชาวบ้านทําพิธีการ เสี่ยงทายความรักของขูลูนางอั้ว โดยใช้บทผญาประกอบการสือทางทางการเคลื่อนไหว ช่วงที่ 3 นักแสดงทั้ง 2 กลุ่ม สื่ออารมณ์ท่าทางเสียใจผิดหวัง ไม่สมหวังในความรัก มีการแต่งกายให้สอดคล้องกับบทบาทของนักแสดง ดนตรีสร้างจังหวะใหม่ในแนวเพลงสร้างสรรค์ การใช้เวทีต่อเนื่องโดยมีการเปลี่ยนมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่งเพื่อ ดึงดูดความสนใจจากผู้ชม แสงสีที่ใช้ ส่วนมากจะเป็นแสงขาวออกเหลืองนวลใช้สีแดงบางช่วงเพื่อช่วยเพิ่ม จุดเด่นของตัวละคร โดยคํานึงถึง การดําเนินการว่าด้วยเรื่องระบบการจัดการ พบว่า แนวความคิดในการ สร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัยในด้านความเชื่อ พิธีกรรมเสี่ยงสายแนน เหมาะสมกับการถ่ายทอดเรื่องราว ออกมาในรูปแบบที่แปลกใหม่จากเดิม ผู้แสดงและผู้ชมสามารถคล้อยตามเนื้อเรื่องได้ง่ายขึ้น เป็นการเล่าเรื่อง เนื้อหาบางตอนของวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขูลู นางอั้ว ในรูปแบบนาฏศิลป์ร่วมสมัย

คําสําคัญ : นาฏศิลป์ร่วมสมัย, ขูลูนางอั้ว

บทนํา

วัฒนธรรมแสดงให้เห็นถึงอารยธรรมของชนชาตินั้นๆ อาทิ องค์ความรู้ ความเชื่อ ศิลปะ ประเพณี กฎหมาย ความสามารถและลักษณะนิสัยตามความนิยมของสังคมในยุคสมัยนั้นๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมเป็นได้ทั้งวัตถุและ ความความคิดที่ได้รับค่านิยมจากสังคมจนเกิดเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมนั้นๆ นาฏกรรมร่วมสมัย หรือนาฏยศิลป์ร่วมสมัย (Contemporary Dance) เป็นปรากฏการณ์ทางศิลปะการแสดงที่พบเห็นได้ทุกยุคทุก สมัย นาฏกรรมร่วมสมัยในยุคหนึ่งๆ นั้นเกิดขึ้นจากนาฏยศิลปินมีความต้องถ่ายทอดวิธีการคิด การออกแบบ สร้างสรรค์ นําเสนอรูปแบบวัฒนธรรมบันเทิงแบบใหม่แก่สังคม หากเป็นที่ยอมรับอย่างสูง มีการถ่ายทอดและเผยแพร่ มีการเลียนแบบ นั่นย่อมหมายถึงความสําเร็จของกระบวนการคิด การออกแบบและสร้างสรรค์ของศิลปิน อาจนําสู่ นาฏกรรมอมตะในที่สุด (Classical Style) ในขณะที่ผลงานของนาฏยศิลปินคนใดไม่มีการแสดงเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ผลงานดังกล่าวก็หายเลือนลางตามกาลเวลา ปัจจัยหนึ่งที่ทําให้นาฏกรรมร่วมสมัยสามารถดํารงอยู่ได้ย่อมขึ้นอยู่กับความชอบ ความพึงพอใจของผู้ชมเป็นผู้ประเมินซึ่งเสมือนผู้พิพากษาสูงสุด ผู้มีอํานาจชี้ขาดในวัฒนธรรมบันเทิงแห่ง สมัยนั้นๆ ที่ว่า ในความเป็นจริง ศิลปะล้วนเปลี่ยนปรับตามวิวัฒน์ของกาลเวลา มีความเจริญรุ่งเรือง หม่นมัว จางหาย ตามกระแสของกาลเวลา

วรรณกรรมพื้นบ้านอีสานจึงถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับสังคมอีสานมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นแหล่งของภูมิปัญญาด้านการเมืองการปกครองเศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ภาษา ตลอดจนความรู้สึกนึกคิดและอุดมการณ์ของชุมชนซึ่งเราสามารถรับรู้จากการดํารงชีวิตและพฤติกรรม ของตัวละคร ด้วยเหตุนี้สถาบันการศึกษาต่างตระหนักถึงความสําคัญของวรรณกรรมนิทานพื้นบ้าน วรรณกรรมอีสาน เรื่องหนึ่ง คือ ขูลู นางอั้ว ต้นฉบับใบลาน จานด้วยอักษรธรรมอีสานใช้คําว่าขูลู ตลอดทั้งเรื่อง แต่ทั่วๆ ไปแล้วนิยมใช้ คําว่า ขูลู แม้แต่อาจารย์ปรีชา พิณทอง ก็ปริวรรตเป็น ขูลู โดยสรุป ของวรรณกรรมเรื่องนี้ก็ต้องตามพุทธวจนที่ว่า ที่ใด มีรักที่นั่นมีโศก ขูลู นางอั้ว เป็นวรรณกรรมอีสานซึ่งสะท้อนให้เห็นชีวิตจริงของมนุษย์และสภาพความเป็นอยู่ของสังคม ในยุคนั้น เช่น การปกครองค่านิยมวัฒนธรรมและให้ข้อคิดในด้านความรักความซื่อสัตย์ กตัญญถือได้ว่า ขูลู นางอั้ว เป็นวรรณกรรมที่มีคุณค่าครบทุกๆ ด้าน ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีคนนํามาเล่าเรื่องราวที่ซ้ํากันโดยถ่ายทอดออกมาเล่นการ เล่าหรือนํามาเขียนเป็นนิทาน แต่เรื่องนี้ยังไม่มีผู้ใดศึกษาวิเคราะห์ถึงกระบวนการในการนําเสนอให้กับบุคคลหรือกลุ่ม คนให้เข้าถึงวรรณกรรมในรูปแบบอื่นๆ การสร้างสรรค์การแสดงนาฏกรรมร่วมสมัยจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถ ทําให้เข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ผู้สร้างสรรค์จึงสร้างสรรค์ การสร้างสรรค์นาฎกรรมร่วมสมัย จากวรรณกรรมเรื่อง พูล นาง อั้ว เพื่อสืบสาน เผยแพร่ศิลปะการแสดงและวรรณกรรมพื้นบ้านอีสาน รวมทั้งการศึกษาและรวบรวมไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ ศึกษาและสืบสานต่อไป

วัตถุประสงค์ของงานวิจัย

เพื่อสร้างสรรค์การแสดงนาฏกรรมร่วมสมัย จากวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขลู นางอั้ว ในด้านความ เชื่อ พิธีกรรมการเสี่ยงสายแนน

วิธีดําเนินการสร้างสรรค์

การสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัย จากวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขูลู นางอั้ว ในด้านความเชื่อคือพิธี กรรมการเสี่ยงสายแนน ใช้เครื่องมือในการวิจัยดังนี้

1. เก็บรวบรวมข้อมูล

1.1 การสํารวจข้อมูลเชิงเอกสาร ตํารา วารสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งภายในประเทศไทยและ ต่างประเทศผู้วิจัยได้ดําเนินการเก็บข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ประกอบไปด้วยหลักการณ์ตามทฤษฎีต่าง ๆ ดังนี้

แนวคิดและทฤษฎีกระบวนการนาฏยประดิษฐ์

1.1.2. แนวคิดและทฤษฎีนาฏยประดิษฐ์

1.1.3. แนวคิดและทฤษฎีดนตรีประกอบการแสดง

1.1.4. แนวคิดทฤษฎีการออกแบบอุปกรณ์การแสดง

1.1.5. แนวคิดและทฤษฎีการออกแบบเครื่องแต่งกาย

1.2 การเก็บข้อมูลภาคสนามการออกเก็บข้อมูลภาคสนามครั้งนี้ ผู้วิจัยได้

1.2.1. การสัมภาษณ์โดยการสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องประเด็นการนําเรื่องสาย แนนมาสร้างสรรค์เป็นการแสดงต่าง ๆ แบบดั้งเดิมโดยแบ่งออกเป็นกลุ่ม ดังนี้ อาจารย์สาขาศิลปะการแสดง อาจารย์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านนาฏยศิลป์และดนตรี, ผู้ออกแบบงานร่วมสมัย

ขั้นตอนการปฏิบัติการสร้างสรรค์งานนี้ได้นําข้อมูลทั้งหมดที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วนํามา วิเคราะห์เพื่อศึกษาค้นคว้าประเด็นต่าง ๆ ตามที่ได้วางแผนไว้ดังนี้

1.2.1 ศึกษาและรวบรวมข้อมูลจากหนังสือเอกสารทางวิชาการและบทความที่เกี่ยวข้อง

1.2.2 ศึกษาจากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านนาฏศิลป์และดนตรี ผู้ออกแบบ งานร่วมสมัย

1.2.3 ศึกษาแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยว

1.2.4 รวบรวมข้อมูลที่ได้นํามาวิเคราะห์สรุปผล เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์

1.2.5 ขั้นตอนการสร้างสรรค์งาน


2. วางแผนในการดําเนินงานสร้างสรรค์

ขั้นตอนการปฏิบัติสร้างสรรค์นี้ผู้วิจัยนําข้อมูลทั้งหมดจากเครื่องมือที่ได้กล่าวมาข้างต้น มาวิเคราะห์ เพื่อศึกษาค้นคว้าถึงประเด็นต่าง ๆ แล้วจึงเริ่มทําการทดลองปฏิบัติการสร้างสรรค์ตามที่ได้วางแผนไว้ดังนี้

2.1 เลือกหัวข้อที่จะนํามาสร้างสรรค์ผลงาน

2.2 ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมอีสานเรื่อง ขูลู นางอั้ว และสัมภาษณ์บุคคล ที่มีความรู้เกี่ยวกับวรรณกรรมอีสาน

2.3 นําข้อมูลที่ได้มาเรียบเรียงเนื้อเรื่องแล้วประพันธ์บทประกอบการแสดงพร้อมกับ เลือกทํานองดนตรีประกอบการแสดงให้เมาะสมกับบทการแสดง

2.4 คิดประดิษฐ์ท่าประกอบการแสดงโดยศึกษาท่าฟ้อนประเภทท่าฟ้อนอีสานให้ เหมาะสมกับดนตรีประกอบการแสดง

2.5 จัดลําดับท่าทางให้เหมาะสมและจัดลําดับการใช้พื้นที่ในการแสดงเพื่อให้เกิดความ สวยงาม

2.6 ออกแบบเครื่องแต่งกาย

2.7 คัดเลือกนักแสดงให้เหมาะสมกับบทบาท

2.8 การทดลองปฏิบัติโดยการนําผลงานสร้างสรรค์ขึ้น ฝึกซ้อมการแสดงให้กับนักแสดง เพื่อค้นหาข้อบกพร่องของการแสดงทั้งหมดมาปรับปรุงแก้ไข

2.9 นําผลงานออกเผยแพร่

การวิเคราะห์ข้อมูล

การศึกษาข้อมูลทั้งหมดทั้งที่เป็นข้อมูลเชิงเอกสารวิชาการ การสัมภาษณ์แล้วสามารถเสนอผลของ การศึกษา จากวัตถุประสงค์ของการวิจัย การสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัย ชุด เสี่ยงแถนแนนฟ้า จาก วรรณกรรม เรื่อง ขูลู นางอั้ว ได้คํานึงถึงองค์ประกอบการแสดงซึ่งประกอบไปด้วย บทประกอบการแสดง เครื่องดนตรี อุปกรณ์ เครื่องแต่งกาย การคัดเลือกนักแสดง โอกาสในการแสดงการสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วม สมัยจากวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขูลู นางอั้ว ผู้สร้างสรรค์ได้กําหนดงานในรูปแบบงานสร้างสรรค์ที่หาแนวคิด และออกแบบการแสดงขึ้นมาใหม่ และเหตุผลที่ใช้นาฏศิลป์ร่วมสมัย เนื่องจากในความหมายนาฏศิลป์ร่วมสมัย มีความอิสระมาก ถูกพัฒนาจากแนวคิดของนาฏศิลป์สมัยใหม่ปราศจากลําดับขั้นของนักเต้น สามารถแสดงได้ ทุกที่และควรเกิดจากการทดลองเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่สร้างสรรค์ทั้งในรูปแบบของการเคลื่อนไหว แนวความคิด หรือองค์ประกอบในการสร้างสรรค์ มีอิสระในการตีความทั้งต่อตัวผู้สร้างผลงานและผู้ชม ถึงแม้ว่าแนวคิดใน นาฏกรรมร่วมสมัยจะมีอิสระมากเพียงใดแต่ในแง่ของกระบวนการสร้างสรรค์จําเป็นต้องมีแบบแผนในการ ดําเนินงานทั้งในการค้นหาวัตถุดิบ ในการเคลื่อนไหวที่ต้องอาศัยปัจจัยต่างๆ เข้ามากระตุ้น จนถึงเครื่องมือและ องค์ประกอบของการสร้างสรรค์ผลงานนาฏศิลป์ร่วมสมัย โดยผู้สร้างสรรค์ค้นคว้าข้อมูลทั้งจากการสัมภาษณ์ ผู้เชี่ยวชาญทางนาฏกรรมร่วมสมัย เอกสารการสร้างสรรค์ผลงานทางนาฏกรรมร่วมสมัยที่สามารถนําไปปรับใช้ และสร้างสรรค์ผลงานนาฏกรรมร่วมสมัยที่มุ่งเน้น การสะท้อนประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในรูปแบบของ ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมีลําดับขั้นตอน

ดังนั้น การสร้างสรรค์นาฏกรรมร่วมสมัย นี้เป็นการสร้างสรรค์ชุดการแสดงและองค์ประกอบขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่ใช่งานนาฏศิลป์แบบดั้งเดิม ผู้สร้างสรรค์จึงกําหนดให้งานสร้างสรรค์ในครั้งนี้เป็นนาฏศิลป์ร่วมสมัยขึ้นโดย 4 การสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัยจากวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขูลู นางอั้ว ” ตอนเสี่ยงสายแนน โดยเห็นว่า ตอนนี้เป็นการทําพิธีกรรมการเสี่ยงสายแนนเพื่อจะทํานายคู่ครองของ ขูลูและนางอั้ว จึงมีแนวคิดที่ต้องการ สร้างสรรค์รูปแบบการเสี่ยงทายสายแนน จากวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขูลู นางอั้ว เป็นวรรณกรรมที่มาจาก ความเชื่อของคนในท้องถิ่นซึ่งเป็นวัฒนธรรมในด้านความเชื่อ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้สร้างสรรค์จึงใช้หัวข้อในการ สร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัย ชุด เสี่ยงแถนแนนฟ้า จากวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขูลู นางอั้ว ในครั้งนี้

สรุปและอภิปรายผล

1. สรุปผลการสร้างสรรค์

การสร้างสรรค์นาฎศิลป์ร่วมสมัยจากวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขูลู นางอั้ว ได้ศึกษาค้นคว้าและเป็นงาน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 ถึงเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งสรุปผลได้ดังนี้

1.1 การสร้างสรรค์นาฎศิลป์ร่วมสมัยจากวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขลู นางอั้ว เป็นการเสี่ยงทายสาย แนน วรรณกรรมพื้นบ้านจากวัฒนธรรมมางานความเชื่อตอนเสี่ยงสายแนนทํานายชีวิตคู่ของ ท้าวขูลูและนางอั้ว มาใช้ในการเขียนบทประกอบการแสดงและประดิษฐ์อุปกรณ์การแสดงและน้ําเครื่องดนตรีอีสานของวง โปงลางมาประกอบลายเพลงและทํานองเพลงเพื่อให้สอดคล้องกับการแสดง แบบแม่ท่าฟ้อนและกระบวนท่า ฟ้อนโดยใช้นาฏศิลป์พื้นเมืองงานเป็นหลักในการสร้างสรรค์ทางนาฏศิลป์ร่วมสมัยโดยแบ่งการแสดงเป็น 3 ช่วง เพื่อสื่อให้ผู้ชมได้เห็นถึงการเสี่ยงทายสายแนนของท้าวขูลูและนางอั้ว แล้วจึงได้ออกลีลาการเคลื่อนไหวของการ แสดงทั้ง 3 ช่วง พร้อมทั้งรูปแบบแถวทั้ง 4 รูปแบบและกําหนดทิศทางทั้ง 4 ทิศประกอบการแปรแถวโดย ออกแบบเครื่องแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของนาฏศิลป์ร่วมสมัย รวมทั้งการแต่งหน้าสําหรับทารแสดงเพื่อเพิ่ม ความงามให้แก่นักแสดงการคัดเลือกนักเป็นสิ่งสําคัญซึ่งนักแสดงได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คัดเลือกนักแสดงที่มี ความสามารถเพื่อสื่อความหมายด้านการถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างชัดเจนและออกแบบแม่ท่าทางการ เคลื่อนไหวให้ได้ความหมายตรงกับบทเสี่ยงทายใช้กระบวนการเคลื่อนไหวท่าทางที่ไม่ซับซ้อนเพื่อให้การแสดงดู ไม่สับสน การสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัยจากวรรณกรรม เรื่อง ขลู นางอั้ว นอกจากนี้ผู้วิจัยคาดหวังว่าจะนํา นาฏศิลป์ร่วมสมัยจากวรรณกรรมเรื่องพูล นางอั้ว จัดแสดงในโอกาสต่างๆ ที่เหมาะสมเพื่อความบันเทิงแก่ ประชาชนทั่วไป

2. อภิปรายผล

ผลของการสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัยจากวรรณกรรมอีสาน เรื่อง ขูลู นางอั้ว ที่นําความเชื่อของคน ในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์เป็นการแสดงในรูปแบบนาฏศิลป์ร่วมสมัย การสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัยจาก วรรณกรรม เรื่อง ขลู นางอั้ว เป็นการนําเสนอความเชื่อตอนเสียงทายสายแนนมาใช้ในการเขียนบท ประกอบการแสดงและประดิษฐ์อุปกรณ์การแสดง และนําเครื่องดนตรีอีสาน มาประกอบทํานองเพลงเพื่อให้สอดคล้องกับการแสดง จากนั้นออกแบบท่าทางการเคลื่อนไหว โดย การประยุกต์ใช่ท่ารําเก่าและใหม่ เพื่อมีการผสมผสานการเคลื่อนไหวทั้งสองแบบนั้นทําให้นักแสดงมีอิสระใน การเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น จึงทําให้การเคลื่อนไหวนั้นแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้หลากหลายมิติ มากขึ้น จึงเป็นหลักในการสร้างสรรค์ทางนาฏศิลป์ร่วมสมัย ได้ข้อมูลที่นํามาอภิปรายผลดังนี้ ได้รวบรวมข้อมูล จากหนังสือ ตํารา เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และ เก็บข้อมูลความเชื่อในวรรณกรรมเรื่อง ขูลู นางอั้ว ซึ่ง สอดคล้องกับแนวคิดและทฤษฎี

  • แนวคิดและทฤษฎีกระบวนการนาฏยประดิษฐ์ ของพีรพงศ์ เสนไสย (2546) ที่คิดสร้างแบบ ประยุกต์ จากดั้งเดิม

  • แนวคิดและทฤษฎีนาฏยประดิษฐ์ของ สุรพล วิรุฬห์รักษ์ (2547) แนวทางในการสร้างสรรค์งาน นาฏศิลป์พื้นเมืองตามลําดับทั้ง 7 ขั้นตอนเป็นแนวทางให้การสร้างสรรค์สมบูรณ์มากขึ้น

  • แนวคิดและทฤษฎีดนตรีประกอบการแสดง ของประยุทธ พหล (อ้างถึงสุกิจ พลประถม,2538) และ สัมภาษณ์ทวิทย์ สิทธิ์สีทอง โดยใช้แนวคิดและทฤษฎีองค์ประกอบของดนตรีพื้นบ้าน เพื่อสร้างสรรค์ดนตรี ประกอบการสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัยจากวรรณกรรมเรื่อง ขูลู นางอั้ว

  • แนวคิดและทฤษฎีการออกแบบอุปกรณ์การแสดง ของพีรพงศ์ เสนไสย (2546) และจากการ สัมภาษณ์ นริศรา ศรีชุมพล เป็นแนวทางการออกแบบอุปกรณ์และ สร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัยจาก วรรณกรรมเรื่อง ขูลู นางอั้ว

  • แนวคิดและทฤษฎีประดิษฐ์ท่าฟ้อนของพจน์มาลย์ สมรรคบุตร (2538) ที่รวบรวมแนวการคิดการ ประดิษฐ์ ท่าฟ้อนจากผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านนาฏศิลป์นั้นใช้เป็นแนวทาง ในการออกแบบ ท่าฟ้อน และแนวคิด ในการแปรแถว

  • แนวคิดและทฤษฎีการออกแบบเครื่องแต่งกาย ของพีรพงศ์ เสนไสย (2546) และการสัมภาษณ์ พจน์มาลย์ สมรรคบุตร การศึกษาเพื่อแนวทางในการออกแบบเครื่องแต่งกายในการสร้างสรรค์นาฎศิลป์ร่วม สมัย จากวรรณกรรมเรื่องพูล นางอั้ว

2.1 การออกแบบลายเพลงประกอบการแสดง

เอาดนตรีลายลําพื้น มาย่อและขยาย แต่งใหม่ สร้างจังหวะใหม่ในแนวเพลงสร้างสรรค์ โดยใช้เครื่อง ดนตรีทั้งดนตรีพื้นบ้านและสากล เช่น พิณ แคน โหวด เบส คีย์บอร์ด กลอง โครงสร้างเพลงอยู่ในอัตราจังหวะ 2/4 เพลงแบ่งเป็นสามช่วง ช้า ปานกลาง และจบด้วยจะหวะช้า กล่าวคือ ท่อนที่1 ใช้อัตราจังหวะ3ชั้น ท่อนที่2 ใช้อัตราจังหวะ2ชั้น และท่อนที่ 3 ใช้อัตราจังหวะ3ชั้นใช้เวลา 6 นาที แต่ละช่วงของการแสดงจะมีทํานองเพลงที่ สอดคล้องกับการแสดงเนื่องจากการทําหนดทํานองเพลงสื่อถึงอารมณ์ของการแสดง

2. 2 การออกแบบอุปกรณ์การแสดง

อุปกรณ์ประกอบการแสดงคือผ้าขาวเป็นอุปกรณ์ของการแสดงเพื่อให้แทนสายแนนที่ผูกเกี่ยวท้าวขูลู และนางอั้ว ไว้และใช้ผ้าขาวในพิธีกรรมการเสี่ยงทายสานแนนว่า ขูลู นางอั้ว จะเป็นเนื้อคู่กันจริงหรือป่าว ซึ่ง สอดคล้องแนวคิดและทฤษฎีการออกแบบอุปกรณ์การแสดงจาก พีรพงศ์ เสนไสย (2546)

2. 3 การออกแบบเครื่องแต่งกาย

การแต่งกายท้าวขูลู นางอั้ว แม่หม่อน(ร่างทรง) ชาวบ้าน มีการแต่งกายให้สอดคล้องกับบทบาทของ นักแสดงด้วย ท้าวขูลู นางอั้ว เป็นบุตรธิดาเจ้าเมือง ใส่เครื่องประดับสีทอง แม่หม่อนเป็นร่างทรงใส่ผ้าโพกหัวไม่ สวมใส่เครื่องประดับ ชาวบ้านมาจากชาวบ้านธรรมดาแต่งกายเรียบร้อยนุ่งโจงกระเบนใช้ผ้ามัดเอวไม่สวมใส่ เครื่องประดับ โดยการแต่งกายใช้ผ้าพื้นเมืองอีสานเป็นเครื่องแต่งกายเนื่องจากวรรณกรรมเรื่องนี้อยู่ในภาค อีสานจึงออกแบบโดยใช่ผ้าพื้นเมืองประจําท้องถิ่นเพื่อสื่อความเป็นอีสาน การสร้างสรรค์ในครั้งนี้ต้องการ สร้างสรรค์ทางศิลปะอย่างอิสระเป็นหลักกําหนดให้สามารถเปลี่ยนสีผ้าถุงลายผ้าสไบแต่ยังคงความจึงเป็น เอกลักษณ์ของผ้าพื้นเมือง หากผู้ที่ต้องการนําการแสดงสามารถปรับให้มีการแต่งกายได้แต่ต้องมีความ เหมาะสม

ภาพที่ 2 การแต่งกาย คนกลางผู้ชาย คือ ท้าวขูลู ผู้หญิงซ้ายมือ คือนางอั้ว

ผู้หญิงขาวมือ คือ แม่หม่อน (ร่างทรง) ผู้ชายขวามือและซ้ายมือ คือ ชาวบ้าน

ที่มา : ภาพถ่ายโดยผู้วิจัย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562



2. 4 การคัดเลือกนักแสดง

นักแสดงประกอบด้วยท้าวขูลู 1 คนนางอั้ว 1 คน แม่หม่อน(ร่างทราง) 1 คนชาวบ้าน 2 คน

ท้าวขูลูเลือกนักแสดงที่เป็นผู้ชายที่มีความสูงหน่วยก้านดี มีความสามารถทางด้านนาฏศิลป์เพื่อง่ายต่อการฝึกหัด ท่าทางต่างๆ และต้องมีความตั้งใจขยันในการฝึกซ้อมซึ่งจะทําให้การฝึกซ้อมไม่เกิดปัญหาและฉลาดในการแก้ไข ปัญหาเฉพาะหน้าได้
นางอั้วเลือกนักแสดงที่เป็นผู้หญิงมีความสูงใกล้เคียงกันกับท้าวขูลูมีความสามารถ ทางด้านนาฏศิลป์เพื่อง่ายต่อการฝึกหัดท่าทางต่างๆ และต้องมีความตั้งใจขยันในการฝึกซ้อมซึ่งจะทําให้การ ฝึกซ้อมไม่เกิดปัญหา
แม่หม่อนเลือกผู้หญิงที่มีรูปร่างสูง ส่วนชาวบ้านเลือกนักแสดงชายที่มีหุ่นกํายํามีความสามารถ ทางด้านนาฏศิลป์เพื่อง่ายต่อการฝึกหัดท่าทางต่างๆและต้องมีความตั้งใจ ขยันในการฝึกซ้อมซึ่งจะทําให้การ ฝึกซ้อมไม่เกิดปัญหาและฉลาดในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้

2.5 โอกาสที่ใช้แสดง

การสร้างสรรค์นาฏกรรมร่วมสมัยจากวรรณกรรมอีสานเรื่องขูลูนางอั้วเป็นการแสดงที่มีความ ผสมผสานระหว่างการรําและการเต้นเข้าด้วยกันเพื่อใหมีความแปลกใหม่ทางการสร้างสรรค์

ในการแสดงช่วงที่ 1 และช่วงที่ 2 ส่วนช่วงที่3 มีความสนุกสนานได้ครบทุกอารมณ์ในการแสดงเสียงแถนแนนฟ้าใช้แสดงในงานรื่นเริ่งทั่วไปงานเทศกาลต่าง ๆ สามารถใช้ประกอบการเรียนการสอนนาฏศิลป์สร้างสรรค์ได้

2. 6 การออกแบบรูปแบบการแสดง

จากการค้นคว้าเอกสารที่เกี่ยวข้องหัวข้อแนวคิดสร้างสรรค์โดยได้นําข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทาง สร้างสรรค์รูปแบบการแสดงและได้รูปแบบในการจัดการแสดงในแต่ละช่วงรูปแบบการแสดงดังนี้

ภาพที่ 3 นักแสดงทั้งหมด

ที่มา : ภาพถ่ายโดยผู้วิจัย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม2562

  • ช่วงที่ 1 การแสดงเริ่มด้วยการออกจากเวทีทั้ง 2 ข้างโดยท้าวขูลูออกด้านขาวและนางอั้วออกด้านซ้าย ของเวที ออกมาเกี้ยวพาราศีกันอย่างมีความสุข

ภาพที่ 4 พูล นางอั้ว เกี้ยวพาราสีกัน

ที่มา : ภาพถ่ายโดยผู้วิจัย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562

  • ช่วงที่ 2 ใช้การฟ้อนตีบทประกอบบทพิธีกรรมเสี่ยงสายแนนโดยสื่อให้เห็นถึงแม่ม่อน (นางเทียม) ประกอบพิธีกรรมตามในนัยยะศาสนาผี ผ่านเสียงแคนถึงแถนให้เพื่อทํานายดวงชะตาการครองคู่รักของท้าวขูลู นางอั้ว (ความเชื่อ)


ภาพที่ 5 แม่หม่อน

ที่มา : ภาพถ่ายโดยผู้วิจัย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562

  • ช่วงที่ 3 ฮักอ้างแนนม้างแปนป่าว ผลจากพิธีกรรมความเชื่อในการเสี่ยงสายแนนของหม่อน(นางเทียม) ว่าท้าวขูลูกับนางอั้วไม่สามารถกันได้ (คติธรรมความพลัดพราก ไม่สมหวังในความมรัก )เป็นช่วงต้องใช้อารมณ์ ผิดหวังเสียใจ


ภาพที่ 6 เสี่ยงทายสายแนน

ที่มา : ภาพถ่ายโดยผู้วิจัย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562

ภาพที่ 7 ขูลู นางอั้วผิดหวัง

ที่มา : ภาพถ่ายโดยผู้วิจัย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม2562

ข้อเสนอแนะ

1. การวางแผนงานเป็นส่วนสําคัญที่จะทําให้งานสําเร็จไปตามวัตถุประสงค์จึงควรใส่ใจในเรื่องขั้นตอน ระยะก่อนการดําเนินงาน

2. กฎหมายในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสิ่งสําคัญที่ต้องศึกษาก่อนจะนําบทประพันธ์หรือผลงานของ ผู้อื่นมาใช้ในงานสร้างสรรค์ทางด้านนาฏกรรมร่วมสมัย

เอกสารอ้างอิง
  • สุรพล วิรุฬห์รักษ์. (2547) หลักการแสดงนาฏยศิลป์ปริทรรน์, พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : ด่านสุธาการพิมพ์

  • ธวัช ปุณโณทก (2537) วรรณกรรมภาคอีสาน กรุงเทพฯ, มหาวิทยาลัยรามคําแหง

  • พีรพงศ์ เสนไสย, ศิลปะการแสดงปริทัศน์ (ฉบับปรับปรุงใหม่ 2552). มหาสคาม : สํานักพิมพ์ วิทยาลัยมหาสารคาม,2552

  • สุกิจ พลประถม. (2538) ดนตรีพื้นบ้านอีสาน, อุดรธานี : สถาบันราชภัฏอุดรธานี

  • รำเผย ไชยสินธุ์ (2553). วรรณศิลป์อีสาน พิมพ์ครั้งที่ 4. เลย: รุ่งแสงธุรกิจการพิมพ์ วรรณกรรมอีสาน.(2561) ออนไลน์ file://c/Users/Windows10/Desktop/งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง/2.pdf

  • เสาวลักษณ์ อนันตศานต์. 2538. นิทานพื้นบ้านเปรียบเทียบ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคําแหง

  • ศรีศักร วัลลิโภดม. 2554. พัฒนาการทางสังคม-วัฒนธรรมไทย. กรุงเทพฯ : โครงการหนังสือ ชุด 72 อุดม บัวศรี 2546 วัฒนธรรมอีสาน ขอนแก่น: คลังนานาวิทยา

Comentários


bottom of page